คนที่ชอบ Sushi นั้นมีมากมาย แต่จะมีสักกี่คนกันที่เคยปั้น Sushi ด้วยตัวเอง ดังนั้นไม่ใช่เพียงแค่ทานเป็นอย่างเดียว ทำไมไม่ลองมาทำ Sushi ด้วยการลองเป็นเชฟ Sushi ดูด้วยล่ะ
ร้าน "Tachibana" ที่สามารถทดลองปั้น Sushi ได้นั้นตั้งอยู่ในตรอกเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ แม้ตอนนี้จะกลายเป็นร้านที่เชี่ยวชาญด้านการทำ Workshops ไปแล้ว แต่ด้วยความที่เคยเป็นร้าน Sushi ยอดนิยมมากว่า 60 ปี จึงยังคงเหลือกลิ่นอายของบรรยากาศความเป็นร้าน Sushi เก่าแก่อยู่
สำหรับการทดลองปั้น Sushi นั้น ก่อนอื่นก็ต้องล้างมือและเปลี่ยนชุดให้เป็นชุดเฉพาะของเชฟ Sushi จากนั้นก็ฟังคำอธิบายเกี่ยวกับวัตถุดิบที่จะใช้ในวันนั้น แล้วลงมือทำข้าวสำหรับ Sushi และเตรียมหน้าของ Sushi กันได้เลย รสชาติความอร่อยของ Sushi นั้นจะเปลี่ยนไปตามวิธีการแล่เนื้อปลา ดังนั้นต้องฟังอาจารย์สอนและใช้มีดบรรจงแล่ปลาอย่างตั้งใจ ซึ่งการจะปั้น Sushi ให้อร่อยนั้นจะต้องไม่ใช้แรงกดมากจนเกินไป เคล็ดลับก็คือการปั้นให้มีจังหวะไหลลื่นไปตามธรรมชาตินั่นเอง
หน้าของ Sushi มีหลายอย่าง เช่น กุ้งคุรุมะ ปลามากูโร่ ปลาแซลมอน ปลาไหลญี่ปุ่น ไข่ปลาแซลมอน เป็นต้น เนื่องจากใกล้ ๆ ร้านนั้นมีตลาด Kuromon ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นห้องครัวแห่ง Osaka ทางร้านจึงสามารถหาซื้อวัตถุดิบที่สดใหม่และอร่อยจากตลาดแห่งนี้ได้ตลอดเวลา และเมื่อปั้น Sushi เสร็จแล้วก็นำมาจัดวางบนจานรูปเรือ ซึ่งต่อจากนี้ก็จะเป็นเวลาแห่งการรอคอย นั่นคือการสนุกไปกับการรับประทาน Sushi ที่คุณเป็นคนปั้นเองกับมือนั่นเอง
คอร์สปกติราคา 5,000 เยนต่อท่าน (อายุ 6 ปีขึ้นไป) เวลาในคอร์สทั้งหมด ทั้งเวลาปั้นและเวลารับประทานรวมกันจะอยู่ที่ 1 ชั่วโมงครึ่ง สามารถทาน Sushi ได้ 10 ชิ้น (*จำนวนชิ้นอาจเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับวิธีการแล่ปลา) โดยสามารถเลือกแพ็กเกจเสริมด้วยก็ได้ เช่น ทดลองซื้อวัตถุดิบที่ตลาด ร้าน "Tachibana" นั้นนอกจากจะใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงในการทำหน้า Sushi แล้ว บรรยากาศภายในร้านก็ดีด้วย โดยเป็นร้าน Workshops ที่ได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก ครอบครัว และแม้กระทั่งเชฟอาหารอิตาลีหรือฝรั่งเศสก็เคยมาเรียนทำ Sushi ที่นี่ด้วย

คุณจะประหลาดใจไหมถ้าบอกว่ามีสถานที่ตกปลาอยู่ภายในตึกกลางเมืองด้วยล่ะ? สถานที่ที่ว่านี้ก็คือร้าน "Fishing Restaurant Zauo" นั่นเอง ซึ่งจริง ๆ แล้วที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นมี "ร้านอิซากายะ (ร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่น)" ที่สามารถกินดื่มได้ในบรรยากาศสบาย ๆ อยู่หลายที่ แต่ร้านอิซากายะที่สามารถรับประทานปลาที่ตัวเองตกได้นั้นแทบจะไม่มีเลย ร้านแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนร้านอิซากายะที่ให้ความบันเทิงในรูปแบบใหม่ ซึ่งได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นอย่างมาก
ภายในร้านจะมีการตกแต่งโต๊ะและเก้าอี้ให้เป็นรูปเรือ มีห้องส่วนตัวทั้งใหญ่และเล็ก แต่ไม่ว่าจะนั่งตรงไหนคุณก็สามารถสนุกกับการตกปลาได้เช่นกัน ซึ่งเราขอแนะนำคอร์สเมนูที่เป็นการรวมอาหารอย่าง Tempura หรือ Sushi เข้ากับบัตรตกปลา โดยคุณสามารถรับเบ็ดและเหยื่อตกปลาแล้วเริ่มจากลองตกปลาไทดูได้เลย ถ้าคุณโชคดีตกปลาไทได้ ทางร้านจะนำไปแขวนกับตะขอให้โดยที่คุณไม่ต้องจับปลาเองด้วยมือเปล่า เพราะฉะนั้นก็อย่าลืมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับปลาที่คุณตกได้เก็บไว้ด้วยนะ หรือถ้าหากตกไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะสามารถนำบัตรตกปลาไปแลกกับปลาได้ โดยบัตรตกปลาสามารถขอซื้อเพิ่มได้ ซึ่งในบ่อตกปลานั้นก็ไม่ได้มีเพียงแค่ปลาไทเท่านั้น ยังมีอาหารปลาและทะเลประเภทอื่นเช่น กุ้งอิเสะ, ปลาตาเดียว, ปลาอาจิ ,หอยต่าง ๆ เป็นต้น คุณสามารถตกปลาหรือตกหอยที่คุณชอบแล้วนำไปให้เชฟทำอาหารให้ได้เลย
เมนูที่จะให้เชฟทำให้ทานก็สามารถเลือกได้จากแบบซาชิมิ (ปลาดิบ), แบบทอด, แบบย่าง, แบบนึ่ง, แบบชุดแป้งทอด หรือจะนำไปทำเป็น Sushi ก็ได้ (*มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) หรือคุณจะลองแบ่งครึ่งตัวปลาแล้วนำไปทำเป็นอาหาร 2 แบบเพื่อรับประทานเปรียบเทียบกันดูก็ยังได้ ยิ่งถ้าเป็นเมนูที่ทำจากปลาที่ตัวเองตกมาแล้วละก็ อาหารมื้อนั้นจะต้องอร่อยยิ่งกว่าเดิมแน่นอนเลยล่ะ

Kushikatsu (หรือ Kushiage) คืออาหารที่ขาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมือง Osaka ซึ่ง Kushikatsu นี้คืออาหารชนิดหนึ่งที่นำเนื้อสัตว์ อาหารทะเล หรือผักต่าง ๆ ไปเสียบไม้ แล้วนำไปชุบแป้ง หลังจากนั้นนำไปทอดในน้ำมัน โดยเราสามารถให้เชฟผู้เชี่ยวชาญประจำร้านทอดให้ทานก็ได้ ไหน ๆ ก็มาเที่ยว Osaka ทั้งทีแล้วมาลองทอด Kushikatsu ทานเองก็น่าสนุกไม่น้อยเลยทีเดียว
ร้าน "Kagura Shokudo Kushiya Monogatari" เป็นร้านที่เราสามารถเลือกวัตถุดิบที่ชอบและนำมาทอดในสไตล์ของตัวเองได้ โดยมีวัตถุดิบให้เลือกประมาณ 30 ประเภท ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัว เนื้อหมู กุ้ง ปลาหมึก ผักต่าง ๆ ไปจนถึงวัตถุดิบที่ไม่ธรรมดา เช่น Takoyaki หรือ Taiyaki เป็นต้น วิธีทำนั้นง่ายมาก เพียงทำตามรูปภาพประกอบคำอธิบายที่ทางร้านเตรียมไว้ให้ แม้จะทำเป็นครั้งแรกก็หมดกังวลได้เลย เพียงแค่นำวัตถุดิบชุบแป้งและเกล็ดขนมปัง จากนั้นนำไปทอดในกระทะที่อยู่บนโต๊ะ เพียงเท่านี้ Kushikatsu ที่กรอบนอกนุ่มในก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ทาซอสที่ชอบแล้วรับประทานได้เลยทันที และที่ร้านยังมีซอสรสชาติต่าง ๆ เตรียมไว้มากมาย ทั้งซอสรสเผ็ด ซอสรสหวาน ซอสบ๊วย และซอสชีสด้วย
นอกจากนี้ยังมีเมนูสลัด, Ochazuke (ข้าวราดน้ำชาหรือข้าวต้มสไตล์ญี่ปุ่น), พาสต้า, ของหวานอย่างช็อกโกแลตฟองดูและเค้ก เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ทุกท่านสามารถเลือกรับประทานได้อย่างอิสระในสไตล์บุฟเฟต์ อีกทั้งยังสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะรับบุฟเฟต์เครื่องดื่มที่มีทั้งเครื่องดื่มทั่วไปรวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มด้วยหรือไม่
Lunch กับ Dinner ที่นี่ราคาและระยะเวลาจะแตกต่างกัน สำหรับช่วงเวลา Dinner Time นั้นสามารถทาน Kushikatsu ที่ชอบได้แบบไม่จำกัดภายในเวลา 90 นาที ซึ่งมีลูกค้าเคยทานได้กว่า 100 ไม้เลยทีเดียว แล้วคุณล่ะจะทานได้มากสุดกี่ไม้กันนะ?

Okonomiyaki (พิซซ่าญี่ปุ่น) คือเมนูซึ่งเป็นที่รักของชาว Osaka โดยร้านส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะมีพนักงานเป็นคนทำให้ แต่ในสมัยก่อนนั้นลูกค้าจะต้องเป็นคนทำทานเอง ดังนั้นหากคุณไปเยือนเมือง Osaka เมืองแห่ง Okonomiyaki แล้วละก็ อย่าลืมไปลองทำ Okonomiyaki ด้วยตัวเองกันนะ
"Sennichimae Hatsuse" เป็นร้าน Okonomiyaki เก่าแก่ที่เปิดมายาวนานตั้งแต่ พ.ศ. 2488 จุดเด่นของร้านคือการนำแป้งมาผสมรวมกันถึง 4 ชนิด และยังใช้น้ำสต็อกที่ทำจากปลา Katsuo และสาหร่าย Kombu ซึ่งก่อนจะลงมือย่าง Okonomiyaki นั้นต้องคนส่วนผสมให้เข้ากันจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกันก่อน ซึ่งถือเป็นเคล็ดลับความอร่อยของการทาน Okonomiyaki เลยล่ะ เมื่อสุกแล้วให้ปรุงรสต่อด้วยวูสเตอร์ซอสและซอสสูตรเข้มข้นพิเศษ ซึ่งเมื่อซอสทั้งสองชนิดมารวมกันจะทำให้เกิดรสชาติที่แสนอร่อย หลังจากนั้นก็โรย Katsuobushi (แผ่นปลาโอแถบตากแห้ง) และสาหร่ายก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้น แนะนำให้รับประทานตอนที่กำลังร้อน ๆ หลังจากเพิ่งทำเสร็จใหม่ ๆ
แม้จะไม่รู้วิธีการทำก็ไม่เป็นไร เพราะทางร้านมีเอกสารอธิบายขั้นตอนเป็นภาษาอังกฤษเตรียมไว้ให้ และถ้าอ่านแล้วยังรู้สึกว่ายากเกินไป ก็สามารถบอกพนักงานให้ช่วยเหลือได้
นอกจาก Okonomiyaki และ Yakisoba แล้วทางร้านก็มีเมนูย่างกระทะร้อนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัว เนื้อหมู หรือผัก ส่วนอาหารจานเดียวก็มีเช่นกัน และยังมีคอร์สเมนูสุดคุ้ม เช่นคอร์สที่มีออเดิร์ฟและของหวาน รวมไปถึงมีบุฟเฟต์เครื่องดื่มด้วย สำหรับที่นั่งจะเป็นแบบห้องส่วนตัวทั้งหมด เป็นห้องสไตล์ญี่ปุ่นที่ต้องถอดรองเท้านั่งรับประทานบนเสื่อทาตามิ ขอเชิญทุกท่านดื่มด่ำกับการรับประทาน Okonomiyaki ในบรรยากาศที่ราวกับอยู่ในบ้านญี่ปุ่น