ปราสาท Wakayama ตั้งอยู่ใจกลางเมือง Wakayama และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีทั้งสวน อาคารประวัติศาสตร์ ไปจนถึงสวนสัตว์เลยทีเดียว ภายในพื้นที่ของสวนขนาดใหญ่นั้นมีต้นซากุระเรียงรายไปทั่ว โดยเฉพาะพื้นที่ตั้งแต่บริเวณประตู Okaguchi ไปจนถึงสวนสาธารณะ Ninomaru นั้นมีต้นซากุระเรียงรายอย่างสวยงามเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ภายในบริเวณ Honmaru Goten จะมีจุดชมวิวที่สามารถถ่ายรูปหอคอย Tenshukaku ที่สูงเด่นงดงามเหนือต้นซากุระ น่าลองมาถ่ายช็อตสวย ๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึกมาก ๆ เลยทีเดียว
และขอแนะนำการเที่ยวชมดอกซากุระในยามค่ำคืนของปราสาท Wakayama นี้ด้วยเช่นกัน เพราะในทุก ๆ ปีเมื่อถึงช่วงเทศกาลดอกซากุระที่จัดขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมเป็นต้นไปนั้น หลังจากพระอาทิตย์ตกดินก็จะมีการเปิดไฟประดับหอคอย Tenshukaku และมีการเปิดโคมไฟต่าง ๆ อย่างงดงาม ทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศดั่งจินตนาการที่แตกต่างไปจากตอนกลางวันได้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ที่ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวภายในปราสาท Wakayama ยังมีบริการให้ลองใส่ชุดย้อนยุคได้อีกด้วย (*จำเป็นต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน) มีทั้งชุดเจ้านายชั้นสูง ชุดลูกสาวของขุนนาง ชุดซามูไร ชุดนินจา ชุดเกราะ และชุดอื่น ๆ ให้เลือกใส่และเดินเที่ยวชมหอคอย Tenshukaku รวมถึงเดินเที่ยวภายในตัวปราสาทได้อย่างเพลิดเพลิน

บ่อน้ำ Sayamaike ในสวนสาธารณะ Sayamaike เป็นบ่อน้ำในรูปแบบของเขื่อนกั้นน้ำที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ถือกำเนิดขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 1159 มีการปลูกต้นซากุระพันธุ์ Koshinohigan ประมาณ 1,000 ต้นบนทางเดินที่ล้อมรอบเขื่อน มีดอกซากุระกลีบซ้อนพันธุ์ Kanzan ดอกสีเหลืองเขียวพวงใหญ่ของขมิ้นชัน และดอกซากุระสายพันธุ์อื่นอีกรวมกว่า 1,300 ต้น ซึ่งต้นซากุระสายพันธุ์ Koshinohigan นั้นเป็นสายพันธุ์ที่บานเร็วกว่าสายพันธุ์อื่น จึงทำให้สถานที่แห่งนี้สามารถชมดอกซากุระบานได้เร็วกว่าที่อื่นใน Osaka เลยทีเดียว โดยทางเดินที่เป็นวงล้อมรอบเขื่อนนั้นมีความยาวประมาณ 2,850 เมตร จึงทำให้มีผู้คนหลากหลายมาวิ่งบ้างเดินบ้างใต้ต้นดอกซากุระนี้ ถือเป็นสถานที่ที่ถ่ายรูปออกมาได้สวยและมีดีไซน์แปลกใหม่ที่ได้รับการออกแบบโดย Tadao Ando ซึ่งเป็นสถาปนิกชื่อดังระดับโลก ใครที่มีความสนใจเรื่องการพัฒนาที่ดินหรือสิ่งก่อสร้าง แนะนำให้ลองแวะมาดูที่นี่ให้ได้สักครั้ง
นอกจากนี้ที่บริเวณริมรางรถไฟรอบ ๆ สถานี Osakasayamashiและสถานี Sayama ของรถไฟ Nankai Electric Railway นั้นมีต้นซากุระปลูกอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศความเป็นฤดูใบไม้ผลิจากนอกหน้าต่างรถไฟได้อีกด้วย

Koyasan สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของพุทธศาสนานิกายชินกง ที่ได้รับการบันทึกเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในฐานะ "สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และทางแสวงบุญของเทือกเขา Kii " โดยที่ Koyasan นี้มีวัดทั้งหมด 117 วัด และมีวัด Kongobuji เป็นวัดศูนย์กลางของทางนิกาย ภายในสวนและบริเวณริมทางเข้าวัด รวมถึงพื้นที่รอบ ๆ นั้นมีต้นซากุระปลูกอยู่เรียงราย ซึ่งตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บนพื้นที่ที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 800 เมตร ทำให้เมื่อเทียบกับพื้นที่ราบทั่วไปแล้วที่แห่งนี้ถือว่าซากุระบานช้ากว่าพื้นที่อื่นเล็กน้อย มีดอกซากุระบางพันธุ์บานยาวไปจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งพันธุ์ซากุระส่วนใหญ่ของที่นี่เป็นซากุระสายพันธุ์ป่าอย่างซากุระ Yamazakura และมีสายพันธุ์ Someiyoshino, สายพันธุ์ Shidarezakura เป็นต้น ยกตัวอย่างเช่น ที่ทางเดินเข้าวัด Kongobuji จะมีต้นซากุระสายพันธุ์ Yaebenishidare อยู่ 2 ต้น ออกดอกสีแดงสดใส ช่วยให้ความรื่นรมย์กับผู้ที่เดินทางมาเยี่ยมชม
อีกทั้ง ต้นซากุระที่เรียงรายอย่างไม่ขาดสายริมทางรถไฟระหว่างสถานี Kamuro และสถานี Kudoyama ของสาย Koyasan ของรถไฟ Nankai Electric Railway นั้นก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่แนะนำเช่นกัน ส่วนช่วงเวลากลางคืนจะมีการใช้ไฟ LED เปิดส่องสว่างให้กับซากุระโดยเฉพาะ เนรมิตสีของดอกไม้ให้งดงามเหมือนกับช่วงเวลากลางวัน ช่วยให้คุณได้ประทับใจกับบรรยากาศของฤดูใบไม้ผลิได้อย่างเต็มอิ่มจากหน้าต่างบนรถไฟทั้งขาไปและขากลับเลยทีเดียว

สวนสาธารณะ Daisen เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ระหว่างสุสานที่เป็นมรดกโลก อย่างสุสานโบราณของจักรพรรดิ Nintoku กับสุสานโบราณของจักรพรรดิ Richu มีการปลูกต้นซากุระไว้ประมาณ 50 ชนิด จำนวนประมาณ 1,000 ต้น และสถานที่ที่แนะนำเป็นพิเศษเลยก็คือบริเวณที่เรียกว่า "Sakurakaido" ที่ตั้งอยู่ในสนามหญ้าขนาดใหญ่ มีซากุระพันธุ์ Someiyoshino และซากุระพันธุ์ Shidarezakura หลากหลายชนิดบานสะพรั่งเป็นสีชมพูระเรื่อไปทั่วสนาม ซึ่งตัดกับสีเขียวของสนามหญ้าได้อย่างลงตัว สร้างบรรยากาศที่ทำให้น่าถ่ายรูปเป็นอย่างมาก
และที่ด้านในของสวนสาธารณะ Daisen ยังมีพิพิธภัณฑ์ Sakai City Museum, ห้องสมุด Sakai City Chuo Library, สวนญี่ปุ่น, และห้องชงชา ที่นอกจากคุณจะได้เพลิดเพลินกับการชมดอกซากุระแล้วยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ให้ทำอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น ที่ห้องชงชา Sakai City "Shinan" นั้นจะมี Teicha ที่เป็นสไตล์นั่งดื่มชาบนเก้าอี้ ช่วยให้คนที่ไม่มีความรู้ด้านการชงชาหรือใครก็ตามได้สัมผัสกับโลกแห่งพิธีของการชงชาได้อย่างง่ายดาย

ที่สวนสาธารณะ Nagano บริเวณเชิงเขา Kongozan เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของทิวทัศน์ที่ชัดเจน ซึ่งตั้งแต่บริเวณเชิงเขาจะเต็มไปด้วยซากุระสายพันธุ์ Someiyoshino และที่บริเวณพื้นดินรอบภูเขาก็จะเต็มไปด้วยต้นซากุระสายพันธุ์ Shidarezakura ที่บานสะพรั่ง ทำให้ภูเขาทั้งลูกถูกปกคลุมไปด้วยสีชมพูอ่อน
นอกจากนี้ ภายในสวนสาธารณะแห่งนี้ยังมีสวนไฮเดรนเยีย ซึ่งเมื่อถึงช่วงประมาณกลางเดือนมิถุนายนเป็นต้นไปจะเห็นสีขาว สีม่วงอ่อน และหลากหลายสีสันของดอกไฮเดรนเยียประดับประดาเต็มไปทั่วสวนแห่งนี้

ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2416 และถือเป็นหนึ่งในสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดใน Osaka มีจุดเด่นคือป่าสนอันงดงามที่ได้รับเลือกให้เป็น "1 ใน 100 ป่าสนที่มีชื่อเสียง"ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในฤดูใบไม้ผลิก็จะมีผู้คนจำนวนมากแวะเวียนมาเที่ยวที่นี่ในฐานะสถานที่สำหรับชมซากุระที่มีชื่อเสียงด้วยเช่นกัน โดยภายในสวนมีต้นซากุระปลูกไว้ประมาณ 1,300 ต้น มีทั้งซากุระพันธุ์ Someiyoshino, พันธุ์ Ooshimazakura, พันธุ์ Yaezakura ซึ่งแต่ละพันธุ์จะบานในช่วงเวลาที่แตกต่างกันไป ทำให้คุณมีเวลาเพลิดเพลินกับการชมดอกซากุระหลากหลายชนิดได้เป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะอุโมงค์สีชมพูที่เกิดจากดอกซากุระที่บานสะพรั่งอย่างงดงามราวกับภาพในฝันเลยทีเดียว
สวนสาธารณะ Hamadera เป็นสวนสาธารณะครบวงจรที่มีทั้งเส้นทางปั่นจักรยาน, สนามเทนนิส, สระว่ายน้ำ, สวนดอกกุหลาบ และสวนสนุกของยานพาหนะอีกด้วย โดยในช่วงประมาณเดือนพฤษภาคมและพฤศจิกายน ที่สวนกุหลาบจะมีกุหลาบกว่า 300 สายพันธุ์ออกดอกเบ่งบานอย่างมีสีสันเป็นจำนวนกว่า 6,500 ดอก ส่วนที่สวนสนุกของยานพาหนะก็จะมีรถไฟและรถโกคาร์ทสำหรับเด็ก, สนามเด็กเล่น และสิ่งของอื่นอีกมากมายที่ให้เด็ก ๆ สามารถเล่นได้อย่างเพลิดเพลินนอกเหนือจากกิจกรรมการชมดอกซากุระเพียงอย่างเดียว

ตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะกับการเดินทางด้วยรถไฟจากสถานี Nankai Namba เพราะใช้เวลาประมาณ 10 นาทีเท่านั้น สวนแห่งนี้มีต้นไม้เป็นจำนวนมาก มีบ่อน้ำที่สวยงาม จึงกลายเป็นสวนสาธารณะที่ได้รับความนิยมในการมาปิกนิก ซึ่งต้นซากุระส่วนใหญ่ในสวน Sumiyoshi เป็นซากุระสายพันธุ์ Someiyoshino ที่มีกลีบดอกสีชมพูอ่อนน่ารักสดใส ทำให้คุณได้เพลิดเพลินกับการชมดอกซากุระและการเดินเล่นรอบ ๆ ลานซากุระนี้ และเรายังจะได้พบเห็นผู้คนที่กำลังสนุกสนานกับการทานบาร์บีคิวไปพร้อมกับชมดอกซากุระที่นี่อีกด้วย
ภายในสวนมีหอคอยสูงซึ่งถือเป็นประภาคารที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นก็คือสามารถมองเห็นร่องรอยของน้ำทะเลที่รุกล้ำเข้ามาจนใกล้ประภาคารแห่งนี้
อีกทั้งสวน Sumiyoshi นี้ยังตั้งอยู่ติดกับศาลเจ้า Sumiyoshi Taisha ซึ่งเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่น ศาลเจ้า Sumiyoshi Taisha เป็นศาลเจ้าที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 754 มีจุดเที่ยวชมมากมาย อาทิเช่น อาคาร "Honden" ทั้ง 4 แห่ง (สมบัติประจำชาติ) ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2353 และ "สะพาน Sorihashi" ที่เป็นสะพานโค้งที่สูงที่สุดประมาณ 48 องศา เป็นต้น เชิญมาเที่ยวชมบรรยากาศของดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์และสัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่นี่กันเถอะ

■รักษามารยาทไปพร้อมกับ "การชมดอกซากุระ" อย่างเพลิดเพลิน
เนื่องจากจะมีผู้คนไปรวมตัวกันตามจุดชมซากุระชื่อดังต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงควรรักษามารยาทในการชมดอกซากุระกันด้วยนะ โดยห้ามเด็ดดอกซากุระหรือหักกิ่งก้านต้นซากุระเพียงเพราะอยากได้ดอกไม้สวย ๆ โดยเด็ดขาด เราควรชื่นชมความงดงามของดอกซากุระตามธรรมชาติจะดีกว่า
และการปีนป่ายต้นซากุระเพื่อต้องการเห็นดอกซากุระแบบใกล้ ๆ นั้นไม่ควรทำเพราะจะทำให้ต้นไม้หักลงมาได้ หากคุณต้องการสังสรรค์แบบมีการทานอาหารร่วมด้วย ให้ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าพื้นที่ดังกล่าวอนุญาตให้นำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปรับประทานได้หรือไม่ ซึ่งควรแยกขยะและทิ้งให้ถูกที่ เช่น กล่องอาหาร กระป๋องเปล่า และถ้าหากไม่พบเห็นถังขยะในบริเวณนั้นก็ควรนำขยะกลับไปทิ้งที่บ้านด้วย
และถ้าหากมีเสื่อหรือเบาะรองนั่งมาด้วยก็จะช่วยให้คุณสามารถนั่งชมทิวทัศน์ของดอกซากุระได้อย่างผ่อนคลาย ซึ่งในฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น ตอนกลางคืนอากาศจะเย็นลงกว่าช่วงกลางวันมาก ดังนั้นหากคุณจะออกมาชมดอกซากุระยามค่ำคืนก็อย่าลืมสวมใส่เสื้อกันหนาว หรือถ้ามีถุงร้อนแบบใช้แล้วทิ้งพกมาด้วยก็จะสะดวกสบายมากขึ้นเลยล่ะ

＜มารยาทในการชมดอกซากุระ＞
· ห้ามหักหรือทำลายกิ่งของต้นซากุระ
· ห้ามเดินเหยียบหรือนั่งบนรากของต้นซากุระเพราะจะทำให้ต้นซากุระได้รับความเสียหายได้
· ตรวจสอบก่อนว่าสถานที่นั้นอนุญาตให้นำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปรับประทานได้หรือไม่
· ห้ามจุดไฟหรือใช้ไฟในพื้นที่ที่ห้ามไม่ให้ใช้ไฟ
· แยกขยะและทิ้งลงถังให้ถูกต้อง หากไม่พบเห็นถังขยะในบริเวณนั้นให้นำกลับไปทิ้งที่บ้าน
· ห้ามดื่มจนเมาขาดสติ และห้ามวิ่งเล่น